การขายฝากที่ดินเป็นสัญญาซื้อขายซึ่งผู้ขายฝากโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้แก่ผู้ซื้อฝากทันที โดยผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ถอนที่ดินคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยกฎหมายกำหนดให้ระยะเวลาในการไถ่ถอนที่ดินไม่เกิน 10 ปี
การขายฝากที่ดินมีข้อดีคือ ผู้ขายฝากสามารถได้รับเงินสดก้อนโตเพื่อนำไปใช้ตามความต้องการได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องขายที่ดินออกไปอย่างถาวร หากผู้ขายฝากสามารถผ่อนชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนด ก็สามารถไถ่ถอนที่ดินคืนได้
อย่างไรก็ตาม การขายฝากที่ดินก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หากผู้ขายฝากไม่สามารถผ่อนชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนด ผู้ซื้อฝากมีสิทธิยึดที่ดินและนำไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขายฝากสูญเสียที่ดินไปอย่างถาวร
ดังนั้น จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจขายฝากที่ดิน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการใช้เงิน ความสามารถในการผ่อนชำระ แนวโน้มราคาที่ดินในอนาคต เป็นต้น
กรณีควรขายฝากที่ดิน
การขายฝากที่ดินควรทำในกรณีต่อไปนี้
- ต้องการเงินสดก้อนโตเพื่อนำไปใช้อย่างเร่งด่วน เช่น ลงทุนทำธุรกิจ ชำระหนี้สิน ใช้จ่ายในครอบครัว เป็นต้น
- มีที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่
- ต้องการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีมรดก
กรณีไม่ควรขายฝากที่ดิน
การขายฝากที่ดินไม่ควรทำในกรณีต่อไปนี้
- ต้องการเงินสดก้อนโตเพียงเล็กน้อย
- ไม่สามารถผ่อนชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนด
- ที่ดินมีราคาสูงหรือมีมูลค่า sentimental value
ข้อควรระวังในการขายฝากที่ดิน
ก่อนตัดสินใจขายฝากที่ดิน ควรพิจารณาข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นต้น
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อฝาก เช่น มีที่ตั้งสำนักงานชัดเจน มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจรับจำนองขายฝากที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย เป็นต้น
- เปรียบเทียบเงื่อนไขการกู้เงินจากผู้ซื้อฝากแต่ละราย
- ผ่อนชำระดอกเบี้ยตามกำหนด
หากผู้ขายฝากพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้อย่างรอบคอบ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายฝากที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย